"ซีเอ็ด"

 


จิ๊กเชี่อว่าใครที่เป็นนักอ่านเวลาเดินเข้าร้านหนังสือก็จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง  ทั้งในแง่ของเทรนด์หนังสือ  ปริมาณหนังสือ  การจัดวางของที่ขาย  สังเกตุจำนวนและขนาดของร้านหนังสือตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป


จิ๊กได้มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณเกษมสันต์  วีระกุล ประธานกรรมการ บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด(มหาชน) ถึงเรื่อง “ความเปลี่ยนแปลงของร้านหนังสือ”



เชื่อว่าหลายคนรู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตา คุณเกษมสันต์เป็นอย่างดี  เพราะบุคคลท่านนี้มีหลายบทบาท  เป็นทั้งอาจารย์, นักจัดรายการ, พิธีกร, เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้าน จนยกให้เป็น Mister AEC และตอนนี้เป็นหัวเรือใหญ่ขององค์กรที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับหนังสืออันดับหนึ่งของประเทศ หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า “ซีเอ็ด”


คุณเกษมสันต์ที่จิ๊กเรียกว่า อาจารย์จนติดปาก  เป็นคนคุยสนุก  รอบรู้ทันสมัย สามารถทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย  ได้เล่าเรื่องการปรับตัวขององค์กรให้ฟังว่า


“ก่อนที่ผมเข้ามารับตำแหน่งประธานบอร์ดของซีเอ็ด ในยุคที่เลือดกำลังไหล  ก็อย่างที่เรารู้ กันดีว่า ปัจจุบันคนสนใจ ‘มือถือ’ มากกว่า ‘หนังสือ’ ฉะนั้นเราได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  เราต้องยอมรับความเป็นจริง  ผมเลยเรียกประชุมกับพนักงานของซีเอ็ดทั้งองค์กร  แล้วถามเขาตรง ๆ ถึงสุขภาพขององค์กรในตอนนี้ว่าเป็นยังไง? ”


“ซีเอ็ด เคยมีสาขากว่า 500 สาขา แต่ปัจจุบันเหลือ 300 กว่าสาขา  ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่โดน Disrupt ทั้งนักเขียน สำนักพิมพ์ สายส่ง ปรับตัวกันไม่ทัน ในภาวะที่พนักงานกำลังขวัญเสีย  เราต้องกลับมาแก้ไขใหม่ทั้งหมด”



“การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้  ก็ต่อเมื่อทุกคนยอมรับความเป็นจริง”


สิ่งที่ซีเอ็ดยอมรับว่าจะต้องเปลี่ยนแปลง  ก็มีอยู่ 2 ข้อใหญ่ๆ คือ

ยอมรับและเข้าใจสถานการณ์ เรื่องขวัญ และกำลังใจของพนักงาน


คุณเกษมสันต์ย้ำว่า “ผมให้น้ำหนักไปที่เรื่องขวัญ และกำลังใจของพนักงานเป็นเรื่องสำคัญ เพราะซีเอ็ดมีพนักงานหลายพันคนโดยผมขอให้ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของซีเอ็ด  ไม่ว่าจะฝ่ายไหน ตำแหน่งไหนก็ตาม  ให้ลงพื้นที่ไปที่ร้านซีเอ็ดในสาขาต่างๆ ให้ไปดู  ไปเยี่ยม ไปช่วยเหลือพนักงานที่อยู่หน้าร้าน เช่นซื้อขนมไปฝาก  ไปให้กำลังใจ  แล้วบอกว่า ‘เราจะฟื้นไปด้วยกัน’


แม้กระทั่งตัวผมเอง  ผมก็ลงพื้นที่โดยเลือกไปในสาขาที่อยู่ไกลหรือคนไม่ค่อยไป เช่น ยะลา แล้วก็ตระเวนทางภาคใต้ไล่ขึ้นมาผมไปเยี่ยมซีเอ็ดมาทุกร้าน ทุกสาขาเพราะผมเชื่อว่ากำลังใจเป็นเรื่องสำคัญ”


การลงพื้นที่ของคุณเกษมสันต์นอกจากจะทำให้พนักงานหน้าร้านมีขวัญและกำลังใจที่ดีแล้วยังมีเรื่องของสินค้าในร้านซีเอ็ดที่ได้รับความนิยมในแต่ละพื้นที่ที่ไม่เหมือนกันมาเล่าให้ฟังด้วย


“จิ๊กลองทายซิ  อย่างจังหวัดสระแก้ว  อะไรในร้านซีเอ็ดที่ขายดี?” คุณเกษมสันต์ถาม

 “เอ่อ.......ก็คงเป็นหนังสือนิยายรึป่าวคะ’จารย์” จิ๊กตอบแบบเดาๆ

“ม่ายช่ายยยย.......ตุ๊กตา!!”

“ห๊า??????”


คุณเกษมสันต์เล่าให้ฟังว่าร้านซีเอ็ดที่ผ่านมาปรับตัวพอสมควรเราไม่ได้ขายแค่หนังสือ  เรามีทั้งอุปกรณ์เครื่องเขียน, แว่นตาอ่านหนังสือ, ขนมขบเคี้ยว, ของเล่น ฯลฯ แล้วคนที่ จ. สระแก้วมีทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา  ซึ่งเขานิยมเข้ามาซื้อของเล่นในร้านซีเอ็ด  โดยเฉพาะตุ๊กตาที่เขาบอกว่าคุณภาพดี  หรือ อย่างจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรมมาก  หนังสือขายดีก็จะเป็นพวกติวสอบ  เพราะคนทำงานในโรงงานพอทำงานมาได้สักระยะ  เขาก็ต้องการไปทำงานในตำแหน่งที่สูงกว่า เพื่อเงินเดือนที่มากกว่าแต่การเลื่อนตำแหน่งก็ต้องมีการสอบเลื่อนขั้นอย่างนี้เป็นต้น


“เพราะผมเชื่อว่าไม่มีใครรู้จักลูกค้าดีกว่าคนในพื้นที่ผมเลยให้สิทธิ์พนักงานในพื้นที่เป็นคนสั่งของเข้าร้าน  เพราะเขาจะรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร”


“เขาสังเกตุ - เขาสั่ง - เขาขาย - แล้วเขาก็บริหารสต็อก.......เป็นการให้อิสระจากส่วนกลาง ให้เขามีส่วนร่วมในการช่วยกันคิด ช่วยกันบริหาร”


คุณเกษมสันต์ยังเล่าให้ฟังอีกว่า “สังเกตุประเทศที่เจริญหรือพัฒนาอย่างรวดเร็ว  รัฐบาลและประชาชนจะให้ความสำคัญกับร้านหนังสือหรือห้องสมุดเป็นอย่างมาก  ไม่ต้องไปไกลเอาแค่ใกล้ๆ บ้านเรา  เช่น สิงคโปร์, จีน, ไต้หวัน, เวียดนาม...แล้วเราจะไม่มีข้อกังขาว่าทำไมเขาถึงเจริญ”



นี้เป็นเพียงตัวอย่างที่จิ๊กนำมาเล่าสู่กันฟังถึงความเปลี่ยนแปลงในองค์กรซีเอ็ดภายใต้การนำของ “ เกษมสันต์ @ ซีเอ็ด “